"In pursuit of knowledge, everyday something is acquired.
In pursuit of wisdom, everyday something is dropped."
Lao Tzu
"หากจะแสวงหาความรู้ แต่ละวันจงหมั่นเติม
หากจะแสวงหาปัญญา แต่ละวันพึงละวางบางสิ่ง"
เล่าจื๊อ
แอบอ่านจากหนังสือของคนข้างๆในรถไฟฟ้า ^_^
วันพุธที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2552
วันอังคารที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2552
วิธีคิดไม่ธรรมดาของมาร์ติน วีลเลอร์

วิธีคิดไม่ธรรมดาของมาร์ติน วีลเลอร์
" คนไทยมีพระเจ้าอยู่หัว มีแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ มีศาสนาพุทธที่ดีมาก ทั้ง ๓ อย่างนี้ พยายามรักษาเอาไว้ให้ได้ "

นิยามความรวยกับความจน
มันเป็นเรื่องแปลกนะที่ประเทศไทยคนยากจนมีหนี้สินเยอะ ที่อังกฤษมีแต่คนรวยที่มีหนี้สิน คนจนไม่มีหนี้เพราะเขาไม่ให้คนจนยืมเงิน เนื่องจากกลัวจะไม่มีปัญญาใช้คืน จึงไม่มีสิทธิ์มีหนี้สิน แต่คนรวยยืมเงินได้ คำว่ารวยกับคำว่าจน มันคืออะไรกันแน่
ที่ขอนแก่นเขาว่าผมบ้าบ้าง ฝรั่งยากจนบ้าง ฝรั่งตกอับบ้าง ฝรั่งขี้นก ฝรั่งไม่มีเงิน แต่ผมบอกว่าไม่ใช่ ผมรวยนะ เขาถามว่ารวยได้ยังไง ผมบอกว่า
๑ . ผมมีบ้าน ผม ทำบ้านเล็ก ๆ เป็นกระท่อมน้อย ๆ เอาหญ้ามามุงหลังคา ชาวบ้านเรียกว่าเถียงนา ไม่ใช่บ้านหรอก ผมบอกว่าใช่ มันบ้านของผม ไม่ใช่บ้านเจ้านาย ราคาหนึ่งหมื่นสองพันบาท อยู่ได้ครับ มันกันแดด - กันฝนได้ แค่นั้นผมก็รวยแล้ว
๒ . มีที่ดินแค่ ๖ ไร่เท่านั้นเอง ที่นั่นเขาบอกว่ากระจอกมีนิดเดียว แต่สำหรับฝรั่งมันเยอะมาก จริง ๆ ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องสำคัญ เป็นพื้นฐานของชีวิต เราต้องมีที่อยู่อาศัยเป็นของเรา ไม่ใช่ของเจ้านาย เพราะว่าถ้ามันเป็นของเจ้านาย เราต้องไปหาเงินให้เขา ถ้าเราไม่มีเงินเขาก็ไล่เราออก เราไม่มีที่อยู่นะ เพราะฉะนั้นต้องมีบ้านเป็นของตัวเองไว้ก่อน ซึ่งผมก็มีบ้าน คิดว่าลูกของผมจะต้องมีบ้านแน่ ๆ ด้วย
เรื่องเกษตรผมทำไม่เก่ง แต่ที่ทำได้ง่าย คือปลูกต้นไม้ ไม้ประดู่ ไม้สะเดา ไม้ยาง ปลูกไว้ให้ลูกสร้างบ้าน ประเทศไทยอุดมสมบูรณ์ ต้นไม้โตเร็วมาก แค่ ๒๕ - ๓๐ ปี ตัดได้แล้ว ไม่เหมือนอังกฤษ ๒๐๐ ปีได้เท่านี้เอง เพราะอากาศเย็น เป็นเรื่องแปลกที่คนไทยจะบ่น โอ๊ย ... มันร้อน ๆ ผมว่ากลับเป็นเรื่องดี แสงแดดเยอะจะทำการเกษตรได้ตลอดเวลา ๑ ปี ทำได้ทุกวัน แต่คนไทยจะบ่นว่าร้อน ๆ ไม่เอา .. ไม่เอา .. อยากเป็นคนผิวขาวดีกว่า แต่คนอังกฤษเขาถือคนผิวขาวเป็นคนจน เพราะว่าไม่มีปัญญาจะไปเมืองนอก ซึ่งกลับกันเลย แม้แต่พ่อของผมเขาก็ยังมีเครื่องอาบแดดเพื่อให้ผิวเป็นสีแทน ให้ดูเป็นแบบคนมีสตางค์ แต่คนไทยกลับอยากมีผิวขาว
วิธีคิดไม่ธรรมดาของมาร์ติน วีลเลอร์
ผมมีลูก ๓ คน ชาย ๒ หญิง ๑ สิ่งสำคัญที่สุด ๒ เรื่องในชีวิตของเรา คือ
๑ . ต้องมีบ้านเป็นของตัวเองให้ได้ จึงจะถือว่าชีวิตประสบความสำเร็จ
๒ . ต้องมีงานทำทุกวัน ไม่ได้จำกัดว่าต้องเป็นงานอะไร แต่ขอให้มีงานทำทุกวัน ชีวิตจึงจะไม่สูญเปล่า
วิธีเดียวที่รับประกันได้ว่าลูกมีงานทำ คือการมีที่ทำกินให้เขา และเราต้องช่วยให้เขาทำเป็น ผมคิดว่าคนชนบทจริง ๆ ใครมีที่ดินทำกินแล้วจะไม่ตกงาน เว้นแต่คนขี้เกียจ ซึ่งบางคนมีที่ดินเยอะแต่ไม่ยอมทำ ถ้าเราสั่งสอนให้ลูกรู้จักทำมาหากินเขาก็ไม่ตกงาน
ผมถือว่างานที่อิสระและมีประโยชน์มากที่สุด คืองานเกษตร ซึ่งช่วยให้เรากินอิ่มทุกวัน คนอังกฤษกินไม่อิ่มเยอะมากนะ ผมไม่อยากให้ลูกของผมอดอาหาร อยากให้ลูกกินอิ่มในลักษณะที่ส่งเสริมสุขภาพด้วย กินอาหารที่ไม่มีสารพิษ กินอาหารแบบเรียบง่ายก็ได้แต่อิ่มทุกวัน เมื่อมีบ้าน มีงาน มีอาหาร ลูกของผมก็จะรวยที่สุด .... ฯลฯ
จุดอ่อน - จุดแข็งของคนไทย
ผมคิดว่าคนไทยส่วนมากยังไม่เข้าใจระบบทุนนิยม เห็นฝรั่งที่ไหนก็คิดว่ารวยหมด คิดว่าการพัฒนาในระบบทุนนิยมจะทำให้ทุกคนมีเงิน ไม่เข้าใจว่าประเทศที่พัฒนาระบบทุนนิยมนานแล้ว เช่น อังกฤษ , สหรัฐ มีปัญหาเยอะมาก แต่คนไทยก็คิดว่าเมืองนอกดีกว่า อันนี้จุดอ่อนครับ คือคนไทยสนใจเมืองนอก ไม่ได้สนใจประเทศไทย ผมเป็นฝรั่ง คุณเลยนั่งฟังผม ถ้าผมเป็นชาวบ้าน คุณจะไม่สนใจผม อันนี้เป็นจุดอ่อนนะ
แต่จุดแข็งคือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ แผ่นดินประเทศไทยอุดมสมบูรณ์มาก ๆ มีดินเยอะมาก น้ำเยอะมาก แสงแดดเยอะมาก ทำเกษตรอยู่รอดแน่ เป็นพลังแผ่นดิน ใคร ๆ ก็อยากได้ประเทศไทย ผมก็ได้ถึง ๖ ไร่
คนไทยโชคดีมาก ๆ ที่ได้ในหลวงเป็นผู้นำ พระองค์ท่านเป็นคนที่ทำงานหนักมากเพื่อช่วยให้คนคิดได้ ช่วยให้คนอยู่ได้ จะหากษัตริย์ในประเทศอื่นไม่ค่อยมีแบบนี้ ปัญหาคือคนไทยส่วนมากนับถือในหลวง แต่ไม่ยอมปฏิบัติตามคำสอนของในหลวง พระองค์ท่านบอกมา ๒๗ ปีถึงเศรษฐกิจพอเพียง แต่คนไทยก็ไม่รู้จักพอเพียง เอาอย่างเดียว ถึงยกมือไหว้ในหลวง แต่เวลาดำรงชีวิตไม่ได้ทำตามในหลวง ก็ในหลวงบอกไว้แล้วว่า
ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นเสือ ขอให้มีอยู่มีกินไว้ก่อน
ถ้าทุกคนเริ่มคิดจริง ๆ ถึงสิ่งที่ในหลวงพูด เราน่าจะช่วยให้ประเทศไทยอยู่ได้ เพราะความคิดของในหลวงเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงต้องอาศัยพลังแผ่นดิน ทำได้เฉพาะประเทศไทยนะเศรษฐกิจพอเพียง ที่อื่นทำไม่ได้หรอกเพราะเขาไม่มีที่ดิน ไม่มีทรัพยากรธรรมชาติเยอะเหมือนประเทศไทย
พวกคุณโชคดีที่ได้แผ่นดินดี ๆ ได้ผู้นำ ( ในหลวง ) ที่ดีด้วย
และเรื่องที่ ๓ เรื่องศาสนา ผมคิดว่า ศาสนาพุทธมีความสำคัญมาก ๆ สำหรับคนไทย ไม่ใช่แค่นับถือไหว้พระ แค่นั้นไม่พอแต่อยู่ที่การปฏิบัติด้วยนะ มักน้อย สันโดษ พอเพียง ธรรมะคือธรรมชาติ เป็นเรื่องง่าย ๆ พึ่งตนเองก็ได้ ปรัชญาของศาสนาพุทธทำได้นะแต่คนไทยจำนวนน้อยที่เข้าใจ จริง ๆ แล้วศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่ออกแบบให้เหมาะสมสำหรับคนบ้านนอก ให้ใช้ชีวิตร่วมกับธรรมชาติโดยไม่ทำลาย ไม่เอาเปรียบ แต่ให้เราเป็นส่วนหนึ่งของธรรมขาติ

อยากบอกอะไรคนไทย
คุณโชคดีมาก ๆ ที่เกิดในประเทศไทยที่อุดมสมบูรณ์ ไม่ต้องไปรบกับใคร ไม่ต้องไปเอาน้ำมันจากใคร ไม่ต้องไปเบียดเบียนคนอื่น ประเทศไทยอยู่ได้ กินอิ่ม มีเหลือแจกด้วย อย่าไปคิดเรื่องเงินอะไรมาก อย่าลดคุณค่าความเป็นไทยของตัวเองลง คนไทยส่วนมากนิสัยดีจริง ๆ คนไทยมีน้ำใจ หายากนะ
คนไทยมีพระเจ้าอยู่หัว มีแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ มีศาสนาพุทธที่ดีมาก ทั้ง ๓ อย่างนี้ พยายามรักษาเอาไว้ให้ได้
ชีวิตที่ไม่ทะเยอทะยานเกินไป คือชีวิตที่มีคุณภาพ ชาวบ้านทุกคนทำได้ ผมเองถึงยังทำไม่สำเร็จแต่มั่นใจว่าจะทำได้แน่ในอนาคต ถ้าผมทำได้คนอื่นก็คงทำได้ง่ายกว่าผมเยอะ ทุกอย่างอยู่ที่เรา ถ้าเราไม่อยากได้อะไรมากเกินไปในชีวิต ชีวิตมันก็ง่าย พยายามทำให้ชีวิตมันง่ายขึ้นอย่าให้มันสับสน อย่าให้มันลำบาก พยายามรักษาสิ่งแบบนี้ให้ดี และอย่าเชื่อฝรั่งมากเกินไป
ขอขอบคุณข้อมูลจาก chaiyo.com

หน้าบ้าน หลังเก่าของเขา เมื่อครั้งมาอยู่ใหม่ๆ

แทบทุกเช้าที่เขาและครอบครัว ใส่บาตรพระด้วยความศรัทธา

กว่าจะถึงวันนี้ ที่ความภาคภูมิใจของชีวิตแล้วสามารถโชว์ความดีงามให้ประจักษ์ แก่บัณฑิต และบุคคลสาธารณะ

ท่ามกลางสวนป่าของเขา ที่สักวันมันคือสมบัติอันล้ำค่าของเขาครอบครัวและสมบัติของแผ่นดิน

นิสิต นศ . มาดูงานและชื่นชมเขาและครอบครัวอยู่เสมอ

มาติน กำลังพาหลวงพ่อสังคม ชื่นชมผลงานเกษตรพอเพียงของเขา

Martin and Family in England
ป้ายกำกับ:
ความรวยกับความจน,
ฝรั่งในไทย,
มาร์ติน วีลเลอร์
วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2552
50 ความจริงโฆษณาไทย
ชำๆ สำหรับวันเบาๆ
จากบทความของคุณ BongTao The Greatest Salaryman
(http://bongtao.exteen.com/20090707/entry)
1. ถ้าโฆษณาไหนต้องใช้โน้ตบุ้กประกอบฉาก มันจะต้องเป็น Macbook เท่านั้น
2. คุณแม่ใจดีในโฆษณาผงซักฟอกไม่มีจริงในโลก เพราะแม่ตัวจริงเจอลูกทำเสื้อเลอะ
แบบที่เห็นในโฆษณา อีตัวลูกโดนตบนมแตกตายตั้งแต่ก่อนเข้าบ้านแล้ว
3. โฆษณาของหน่วยงานของรัฐฯ มักจะดูเสล่อๆ
4. ขนมในโฆษณาขนมกุ๊บกิ๊บทั้งหลาย มันจะตัดปากถุงซะเรียบแปล้
ทั้งๆที่ในโลกความจริง ไม่มีใครเขาเอากรรไกรตัดฝากถุงอย่างนั้นซักคน
5. จนป่านนี้แล้ว อียูโรคัสตาร์ดเค้ก มันก็ยังหน้าด้านโฆษณาว่าเค้กมันไส้ไหลล้นทะลัก
ทั้งๆที่ใครๆก็รู้ว่า เมนส์ปลวกยังเยอะกว่าไส้ขนมมันเลย --- สคบ. ช่วยจัดการด้วย
6. โฆษณาการบินไทย ใช้แอร์ดูสาวและสวยมาก แต่ของจริงบนเครื่องนั้นป้าที่สุด!
7. โฆษณาของ Dtac ไม่เคยใช้ดาราดังแสดง
8. หลายบริษัทเอาคนในบริษัทตัวเองนี่แหละ มาเล่นโฆษณาเองซะเลย ประหยัดดี!
9. บางทีเห็นโฆษณาเดียวกันฉายต่อติดๆกัน อันนั้นเขาตั้งใจจริงๆนะครับ
10. โฆษณาท่องเที่ยวไทยที่ป้าเบิร์ดเล่น เฟคมาก นั่นป้าวิ่งเล่นอยู่ในโลกความฝันหรือครับ?
11. เมืองไทยเคยมีโฆษณาแชมพู ที่นางเอกผมเงาจนสะท้อนหน้าคนบนเส้นผมมาแล้ว!
12. และเมืองไทยก็เคยมีโฆษณาจั๊กกะแร้ขาวถึงขั้นมีแสงพุ่งออกมาจากจั๊กกะแร้มาแล้ว!
13. มีสินค้าหลายตัวที่ดัง และขายดีมาก โดยไม่เคยออกโฆษณาทีวีแม้แต่ครั้งเดียว
14. ห้องครัวในโฆษณาผงปรุงรสต่างๆ ดูดีและสะอาดเกินกว่าห้องความในโลกความจริง
15. ครีมบำรุงผิวสมัยนี้ มีอิทธิฤทธิ์ถึงขั้นใช้แล้วผัวเปลี่ยนพฤติกรรมได้ มหัศจรรย์มั้ยล่ะ!
16. สังเกตดีๆว่า พวกโฆษณาที่อ้างว่า 99% ของผู้ทดลองใช้พอใจ มันจะมีตัวหนังสือเล็กๆ
บอกว่าจริงๆแล้ว สำรวจกับคนประมาณ 112 คนในประเทศแถวๆอเมริกาใต้
17. ทำไมเบียร์ต้องได้เหรียญทอง? ตกลงเอ็งจะขายเบียร์หรือไปวิ่งแข่งโอลิมปิก?
18. อีห้องแล๊บของ pond’s ที่เป็นห้องขาวทั้งห้อง ดูแล้วนึกว่าเป็นแล๊บ NASA
19. โฆษณาขนมหลอกเด็ก กล้องจะไม่ตั้งตรงๆ แต่จะหมุนไปหมุนมา ซูมเข้าซูมออกตลอด
20. โฆษณาน้ำยาปรับผ้านุ่ม เวลาดมผ้า จะมีดอกไม้พุ่งออกมาจากผ้าขนหนูทุกครั้ง
21. โฆษณาประตูน้ำโพลีคลินิก เป็นโฆษณาที่อุบาทว์ชาติชั่วมาก
เพราะทั้งโฆษณาไม่มีอะไรเลย นอกจากตัวหนังสือวิ่งๆ เหมือนใช้ powerpoint ทำ
22. ตัวหนังสือเล็กๆ ใต้จอที่เล็กจนอ่านไม่ออก หลายคนในวงการเรียกว่า “มดวิ่ง”
23. โฆษณาประเภทโปรโมชั่น ตอนจบมักมีคนจำนวนมากยืนกระจุกกัน กำหมัดชูมือ แล้วร้อง “เย้!”
24. โฆษณาเอ็มเค เรียงอาหารในหม้อสุกี้ได้โคตรเฟค มีใครเขากินสุกี้ประดิดประดอยกันแบบนี้ด้วยเหรอ?
25. โฆษณาของบาร์บีคิวพลาซ่าก็เช่นเดียวกัน ใส่ผักในกระทะเยอะเว่อร์! ชั้นไปร้านแกเพื่อกินเนื้อเว้ย!
26. โฆษณาของ “ไทยประกันชีวิต” นั้นโคตรเศร้า...
27. ในขณะที่ โฆษณาของ “เมิองไทยประกันชีวิต” นั้นโคตรฮา...
28. โฆษณาของโค้กจะแอบกัดเป๊ปซี่แบบเนียนๆอยู่เกือบทุกเรื่อง (ลองสังเกตดีๆ ...)
29. โฆษณาน้ำยาล้างจาน จะต้องมีฉากที่เอามือลูบจานแล้วได้ยินเสียง “วื้ด” เพื่อยืนยันความสะอาด
30. โฆษณารถกระบะ จะต้องมีฉากเลี้ยวโค้งหักศอก แอ่งน้ำขังบนพื้นสาดกระจายยยยย
31. โฆษณาเครื่องดื่มบรรจุขวด พรีเซนเตอร์ต้องกระดกขวดเท่านั้น ห้ามใช้หลอดดูดเด็ดขาด!
32. โฆษณาผ้าอนามัยทุกยี่ห้อ ใช้ของเหลวใสสีฟ้าหรือเขียวแทน...เอ่อ... นั่นล่ะครับ
33. มาม่าในชามในโฆษณา จะมีหมูสับลอยฟ่องเป็นแพ พร้อมผักและดอกไม้ใบหญ้าอีกมากมาย
34. โฆษณาไวเทนนิ่ง จะต้องมีฉากที่นางเอกค่อยๆลอกคราบทีละชั้นจากดำเป็นขาว
35. หลายคนคอนเฟิร์มว่าพรีเซนเตอร์ผู้ชายของโฆษณา NIVEA หล่อล่ำลากเลือดมาก...
36. ช่างก่อสร้างในโฆษณาปูนบางยี่ห้อ หน้าตาดีซะจนอยากจะทุบบ้านให้ช่างคนนี้มาซ่อมให้
37. โฆษณาแชมพู มักมีเนื้อเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับแชมพู เช่น นางเอกไปสมัครงาน หรือเล่นคาราเต้
38. พรีเซนเตอร์ในโฆษณามักใส่เสื้อสีเดียวกับสีของผลิตภัณฑ์นั้นๆ
39. โฆษณาสินค้าทุกประเภทที่เกี่ยวกับการ “ฆ่าเชื้อ” หรือ “ทำความสะอาด” จะต้องมีฉากแบ่งครึ่งจอเพื่อเทียบกันซ้ายขวาเสมอ (ข้างที่ใช้กับไม่ใช้)
40. และแม้ว่าสินค้านั้นจะฆ่าเชื้อได้สะอาดขนาดไหน เราจะเห็นภาพเชื้อโรคเหลืออยู่หย่อมเล็กๆเสมอ
41. เราจะไม่เห็นขวดเหล้าขวดเบียร์ในโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แม้แต่ขวดเดียว
42. โฆษณาเดียวกัน --- ถ้าดูในโรงหนังมันจะได้อารมณ์กว่า เศร้ากว่า ฮากว่าดูที่บ้าน
43. เพลงบางเพลงดังได้เพียงเพราะโฆษณาหยิบมาใช้ (เช่นเพลงในโฆษณาชุด “แม่ต้อย”)
44. โฆษณาประเภท testimonial ที่ให้คนเคยใช้สินค้าออกมายืนยัน บางทีจริงแต่ชื่อ แต่คนแสดงไม่จริง เพราะหน้าตาตัวจริงน่ากลัวจนกล้องถ่ายไม่ติด ...เอ้ย ไม่ดีพอจะขึ้นกล้องได้ จึงต้องใช้คนแทน
45. โฆษณาน้ำอัดลม คนดื่มแล้วจะต้องร้อง “อ้าหห์” เสมอ
46. มีโฆษณาหลายตัวที่ให้พรีเซนเตอร์เอาสินค้าแนบใบหน้าซะใกล้จนเกินเหตุ
47. ในไทยรัฐหน้าบันเทิง คอลัมน์ “บันเทิงไทยรัฐ” นี่มันโฆษณาเครื่องสำอางชัดๆ!
48. เสียงเคี้ยวขนมในโฆษณามันฝรั่งทอดจะดัง “กร้วม” แบบไร้มารยาทสังคมที่สุด
49. บางทีเราก็มัวแต่ดูหน้าดูนมของพรีเซนเตอร์ จนลืมดูสินค้าไปโดยปริยาย
50. และโฆษณาบางเรื่อง แม่งตลกชิบหาย ตลกจนดูจบแล้วยังจำชื่อสินค้าไม่ได้...
จากบทความของคุณ BongTao The Greatest Salaryman
(http://bongtao.exteen.com/20090707/entry)
1. ถ้าโฆษณาไหนต้องใช้โน้ตบุ้กประกอบฉาก มันจะต้องเป็น Macbook เท่านั้น
2. คุณแม่ใจดีในโฆษณาผงซักฟอกไม่มีจริงในโลก เพราะแม่ตัวจริงเจอลูกทำเสื้อเลอะ
แบบที่เห็นในโฆษณา อีตัวลูกโดนตบนมแตกตายตั้งแต่ก่อนเข้าบ้านแล้ว
3. โฆษณาของหน่วยงานของรัฐฯ มักจะดูเสล่อๆ
4. ขนมในโฆษณาขนมกุ๊บกิ๊บทั้งหลาย มันจะตัดปากถุงซะเรียบแปล้
ทั้งๆที่ในโลกความจริง ไม่มีใครเขาเอากรรไกรตัดฝากถุงอย่างนั้นซักคน
5. จนป่านนี้แล้ว อียูโรคัสตาร์ดเค้ก มันก็ยังหน้าด้านโฆษณาว่าเค้กมันไส้ไหลล้นทะลัก
ทั้งๆที่ใครๆก็รู้ว่า เมนส์ปลวกยังเยอะกว่าไส้ขนมมันเลย --- สคบ. ช่วยจัดการด้วย
6. โฆษณาการบินไทย ใช้แอร์ดูสาวและสวยมาก แต่ของจริงบนเครื่องนั้นป้าที่สุด!
7. โฆษณาของ Dtac ไม่เคยใช้ดาราดังแสดง
8. หลายบริษัทเอาคนในบริษัทตัวเองนี่แหละ มาเล่นโฆษณาเองซะเลย ประหยัดดี!
9. บางทีเห็นโฆษณาเดียวกันฉายต่อติดๆกัน อันนั้นเขาตั้งใจจริงๆนะครับ
10. โฆษณาท่องเที่ยวไทยที่ป้าเบิร์ดเล่น เฟคมาก นั่นป้าวิ่งเล่นอยู่ในโลกความฝันหรือครับ?
11. เมืองไทยเคยมีโฆษณาแชมพู ที่นางเอกผมเงาจนสะท้อนหน้าคนบนเส้นผมมาแล้ว!
12. และเมืองไทยก็เคยมีโฆษณาจั๊กกะแร้ขาวถึงขั้นมีแสงพุ่งออกมาจากจั๊กกะแร้มาแล้ว!
13. มีสินค้าหลายตัวที่ดัง และขายดีมาก โดยไม่เคยออกโฆษณาทีวีแม้แต่ครั้งเดียว
14. ห้องครัวในโฆษณาผงปรุงรสต่างๆ ดูดีและสะอาดเกินกว่าห้องความในโลกความจริง
15. ครีมบำรุงผิวสมัยนี้ มีอิทธิฤทธิ์ถึงขั้นใช้แล้วผัวเปลี่ยนพฤติกรรมได้ มหัศจรรย์มั้ยล่ะ!
16. สังเกตดีๆว่า พวกโฆษณาที่อ้างว่า 99% ของผู้ทดลองใช้พอใจ มันจะมีตัวหนังสือเล็กๆ
บอกว่าจริงๆแล้ว สำรวจกับคนประมาณ 112 คนในประเทศแถวๆอเมริกาใต้
17. ทำไมเบียร์ต้องได้เหรียญทอง? ตกลงเอ็งจะขายเบียร์หรือไปวิ่งแข่งโอลิมปิก?
18. อีห้องแล๊บของ pond’s ที่เป็นห้องขาวทั้งห้อง ดูแล้วนึกว่าเป็นแล๊บ NASA
19. โฆษณาขนมหลอกเด็ก กล้องจะไม่ตั้งตรงๆ แต่จะหมุนไปหมุนมา ซูมเข้าซูมออกตลอด
20. โฆษณาน้ำยาปรับผ้านุ่ม เวลาดมผ้า จะมีดอกไม้พุ่งออกมาจากผ้าขนหนูทุกครั้ง
21. โฆษณาประตูน้ำโพลีคลินิก เป็นโฆษณาที่อุบาทว์ชาติชั่วมาก
เพราะทั้งโฆษณาไม่มีอะไรเลย นอกจากตัวหนังสือวิ่งๆ เหมือนใช้ powerpoint ทำ
22. ตัวหนังสือเล็กๆ ใต้จอที่เล็กจนอ่านไม่ออก หลายคนในวงการเรียกว่า “มดวิ่ง”
23. โฆษณาประเภทโปรโมชั่น ตอนจบมักมีคนจำนวนมากยืนกระจุกกัน กำหมัดชูมือ แล้วร้อง “เย้!”
24. โฆษณาเอ็มเค เรียงอาหารในหม้อสุกี้ได้โคตรเฟค มีใครเขากินสุกี้ประดิดประดอยกันแบบนี้ด้วยเหรอ?
25. โฆษณาของบาร์บีคิวพลาซ่าก็เช่นเดียวกัน ใส่ผักในกระทะเยอะเว่อร์! ชั้นไปร้านแกเพื่อกินเนื้อเว้ย!
26. โฆษณาของ “ไทยประกันชีวิต” นั้นโคตรเศร้า...
27. ในขณะที่ โฆษณาของ “เมิองไทยประกันชีวิต” นั้นโคตรฮา...
28. โฆษณาของโค้กจะแอบกัดเป๊ปซี่แบบเนียนๆอยู่เกือบทุกเรื่อง (ลองสังเกตดีๆ ...)
29. โฆษณาน้ำยาล้างจาน จะต้องมีฉากที่เอามือลูบจานแล้วได้ยินเสียง “วื้ด” เพื่อยืนยันความสะอาด
30. โฆษณารถกระบะ จะต้องมีฉากเลี้ยวโค้งหักศอก แอ่งน้ำขังบนพื้นสาดกระจายยยยย
31. โฆษณาเครื่องดื่มบรรจุขวด พรีเซนเตอร์ต้องกระดกขวดเท่านั้น ห้ามใช้หลอดดูดเด็ดขาด!
32. โฆษณาผ้าอนามัยทุกยี่ห้อ ใช้ของเหลวใสสีฟ้าหรือเขียวแทน...เอ่อ... นั่นล่ะครับ
33. มาม่าในชามในโฆษณา จะมีหมูสับลอยฟ่องเป็นแพ พร้อมผักและดอกไม้ใบหญ้าอีกมากมาย
34. โฆษณาไวเทนนิ่ง จะต้องมีฉากที่นางเอกค่อยๆลอกคราบทีละชั้นจากดำเป็นขาว
35. หลายคนคอนเฟิร์มว่าพรีเซนเตอร์ผู้ชายของโฆษณา NIVEA หล่อล่ำลากเลือดมาก...
36. ช่างก่อสร้างในโฆษณาปูนบางยี่ห้อ หน้าตาดีซะจนอยากจะทุบบ้านให้ช่างคนนี้มาซ่อมให้
37. โฆษณาแชมพู มักมีเนื้อเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับแชมพู เช่น นางเอกไปสมัครงาน หรือเล่นคาราเต้
38. พรีเซนเตอร์ในโฆษณามักใส่เสื้อสีเดียวกับสีของผลิตภัณฑ์นั้นๆ
39. โฆษณาสินค้าทุกประเภทที่เกี่ยวกับการ “ฆ่าเชื้อ” หรือ “ทำความสะอาด” จะต้องมีฉากแบ่งครึ่งจอเพื่อเทียบกันซ้ายขวาเสมอ (ข้างที่ใช้กับไม่ใช้)
40. และแม้ว่าสินค้านั้นจะฆ่าเชื้อได้สะอาดขนาดไหน เราจะเห็นภาพเชื้อโรคเหลืออยู่หย่อมเล็กๆเสมอ
41. เราจะไม่เห็นขวดเหล้าขวดเบียร์ในโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แม้แต่ขวดเดียว
42. โฆษณาเดียวกัน --- ถ้าดูในโรงหนังมันจะได้อารมณ์กว่า เศร้ากว่า ฮากว่าดูที่บ้าน
43. เพลงบางเพลงดังได้เพียงเพราะโฆษณาหยิบมาใช้ (เช่นเพลงในโฆษณาชุด “แม่ต้อย”)
44. โฆษณาประเภท testimonial ที่ให้คนเคยใช้สินค้าออกมายืนยัน บางทีจริงแต่ชื่อ แต่คนแสดงไม่จริง เพราะหน้าตาตัวจริงน่ากลัวจนกล้องถ่ายไม่ติด ...เอ้ย ไม่ดีพอจะขึ้นกล้องได้ จึงต้องใช้คนแทน
45. โฆษณาน้ำอัดลม คนดื่มแล้วจะต้องร้อง “อ้าหห์” เสมอ
46. มีโฆษณาหลายตัวที่ให้พรีเซนเตอร์เอาสินค้าแนบใบหน้าซะใกล้จนเกินเหตุ
47. ในไทยรัฐหน้าบันเทิง คอลัมน์ “บันเทิงไทยรัฐ” นี่มันโฆษณาเครื่องสำอางชัดๆ!
48. เสียงเคี้ยวขนมในโฆษณามันฝรั่งทอดจะดัง “กร้วม” แบบไร้มารยาทสังคมที่สุด
49. บางทีเราก็มัวแต่ดูหน้าดูนมของพรีเซนเตอร์ จนลืมดูสินค้าไปโดยปริยาย
50. และโฆษณาบางเรื่อง แม่งตลกชิบหาย ตลกจนดูจบแล้วยังจำชื่อสินค้าไม่ได้...
วันพุธที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2552
ความประทับใจกับหมู่บ้านพลัม
ยายกิ๊บ
อืมม เสียดายจัง เค้ามีงานภาวนาช่วง 23-27 ต.ค. นี้พอดีเลย
ดูข้อมูล และบทความได้ที่
http://www.thaiplumvillage.org/
กลุ่มหมู่บ้านพลัมในประเทศไทย ไม่ใช่วัด เพราะยังไม่มีวัดของตัวเองในประเทศไทย
มีแต่วัดที่ต่างประเทศ เช่น ฝรั่งเศส เวียดนาม อเมริกา เยอรมัน วัดพลัมของไทยกำลังทำอยู่ที่โคราชน่ะ
คนที่มาช่วยกันทำงานภาวนาก็เป็นกลุ่มอาสาสมัคร ที่มีความศรัทธาในแนวทาง และเคยมาปฏิบัติด้วยกัน
เวลาที่คณะอาจารย์เดินทางมาจากต่างประเทศกัน ก็จะอาศัยสอนตามสถานที่ห้องประชุมที่พอจะหาได้ และรีสอร์ท
ส่วนกลุ่มผู้ปฏิบัติก็มีการเจอกันทุกอาทิตย์ทุกเดือน ตามบ้านเพื่อนๆ หรือบริษัทเพื่อนๆ ว่ากันไป
หมู่บ้านพลัม หมายถึงกลุ่มชาวพุทธ ที่ปฏิบัติภาวนาตามแนวทางของท่านติช นัท ฮันห์
พระชาวเวียดนาม ที่ถูกพรรคคอมมิวนิสไล่ออกจากประเทศ และไปสร้างสังคม ลูกศิษย์ลูกหาอยู่ที่ฝรั่งเศส
แนวทางก็คือวิถีพุทธ ที่สอนให้มีสติอยู่ในชีวิตประจำวัน ลมหายใจเข้าออก ง่ายๆ
สิ่งที่น่าสนใจมากคือ คำสอนจากอาจารย์ ถูกถ่ายทอดด้วยภาษาอังกฤษ จุดเด่นก็คือ เป็นภาษามนุษย์ปัจจุบัน
ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษ ก็มีคนเก่งๆคอยช่วยแปลตลอดงานเลย
แปลเป็นคำบ้านๆ เข้าใจง่าย ไม่ใช่ว่าใช้คำบาลีจนงง
เราคิดว่าหลายคนไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริงของ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เพราะกำแพงของภาษา
เราได้ยินมาตลอดชีวิต กว่าจะได้เข้าใจจริงๆก็คือตอนปฏิบัติเข้มข้นเอง
แต่เราได้ฟังทางนี้ ใช้ภาษาปัจจุบันได้ดีมากๆ รวมทั้งการเปรียบเทียบด้วย คิดว่าเข้าใจได้ง่าย
แต่สิ่งที่ประทับใจ และแนะนำให้กิ๊บ คือการนำภาวนาสำหรับครอบครัว
พระของหมู่บ้านพลัม วิ่งเล่นกับเด็ก เล่านิทาน สอนวาดรูป เล่นเกมสร้างสรรค์
คราวที่เราไป พระมาวิ่งเล่นสาดน้ำด้วย
แต่ช้าก่อน อย่าเพิ่งเข้าใจว่าพระทำไมไม่สำรวม เล่นได้ไง
ถ้าได้เห็นอาการเคลื่อนไหวของพระอาจารย์เหล่านี้ เค้าเคลื่อนไหวอย่างมีสติจริงๆ
สามารถเข้าถึงธรรมชาติของเด็กๆได้อย่างเป็นตัวตนที่แท้จริง
ไม่ได้สร้างภาพนักบวชมาดเคร่งเกร็งจนตูดขมิบจนเด็กไม่กล้าเข้าใกล้
เมื่อนักบวชเข้าถึงโลกของเด็กได้อย่างแท้จริงแล้ว
การสื่อสารเพื่อจะถ่ายทอดธรรมะใหกับเด็กๆ ดูจะไม่เป็นปํญหาอะไรเลย
เด็กๆกลับสนใจ และเชื่อฟัง รู้จักเวลาที่ควรสงบนิ่ง รู้จักเวลาเล่น
มันคือการมีความสุขกับโลกปัจจุบัน
ยอดเยี่ยมมากครับ เกิดความศรัทธามากเลย
อยากแนะนำให้เพื่อนๆทุกคนเลย
โดยเฉพาะเด็กๆ ที่ต้องเติบโตท่ามกลางการแก่งแย่งของสังคมปัจจุบัน
อยากให้เรียนรู้ความสุขของการอยู่ร่วมกันอย่างเคารพ เอื้อเฟื้อ แบ่งปัน
ในกิจกรรมดีๆ กับคณาจารย์ดีๆอย่างนี้
เอาเถอะ ธรรมะ คือ สิ่งที่เห็นได้ด้วยตัวเองจากการเข้าไปลองดู เท่านั้น
สิ่งที่กิ๊บจะได้ ไม่ใช่สิ่งที่เราได้มา การเดินทางให้ประสบการณ์ที่แตกต่าง
การเปิดใจเพื่อเรียนรู้ จะขยายขอบเขตของสิ่งที่ได้รับ
ลูกกิ๊บเป็นเด็กฉลาด ท่าทางจะพาตัวเองให้สบายได้ตลอด และความจำดีนะ
เหนื่อยหน่อยนะ ต้องหาอะไรให้ลูกทำเยอะๆหน่อย
พ่นมาซะเยอะเลย อยากคุยกับตัวมากกว่า ฝอยได้มากกว่านี้อีก โทรมาละกัน
ทิน
อืมม เสียดายจัง เค้ามีงานภาวนาช่วง 23-27 ต.ค. นี้พอดีเลย
ดูข้อมูล และบทความได้ที่
http://www.thaiplumvillage.org/
กลุ่มหมู่บ้านพลัมในประเทศไทย ไม่ใช่วัด เพราะยังไม่มีวัดของตัวเองในประเทศไทย
มีแต่วัดที่ต่างประเทศ เช่น ฝรั่งเศส เวียดนาม อเมริกา เยอรมัน วัดพลัมของไทยกำลังทำอยู่ที่โคราชน่ะ
คนที่มาช่วยกันทำงานภาวนาก็เป็นกลุ่มอาสาสมัคร ที่มีความศรัทธาในแนวทาง และเคยมาปฏิบัติด้วยกัน
เวลาที่คณะอาจารย์เดินทางมาจากต่างประเทศกัน ก็จะอาศัยสอนตามสถานที่ห้องประชุมที่พอจะหาได้ และรีสอร์ท
ส่วนกลุ่มผู้ปฏิบัติก็มีการเจอกันทุกอาทิตย์ทุกเดือน ตามบ้านเพื่อนๆ หรือบริษัทเพื่อนๆ ว่ากันไป
หมู่บ้านพลัม หมายถึงกลุ่มชาวพุทธ ที่ปฏิบัติภาวนาตามแนวทางของท่านติช นัท ฮันห์
พระชาวเวียดนาม ที่ถูกพรรคคอมมิวนิสไล่ออกจากประเทศ และไปสร้างสังคม ลูกศิษย์ลูกหาอยู่ที่ฝรั่งเศส
แนวทางก็คือวิถีพุทธ ที่สอนให้มีสติอยู่ในชีวิตประจำวัน ลมหายใจเข้าออก ง่ายๆ
สิ่งที่น่าสนใจมากคือ คำสอนจากอาจารย์ ถูกถ่ายทอดด้วยภาษาอังกฤษ จุดเด่นก็คือ เป็นภาษามนุษย์ปัจจุบัน
ถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษ ก็มีคนเก่งๆคอยช่วยแปลตลอดงานเลย
แปลเป็นคำบ้านๆ เข้าใจง่าย ไม่ใช่ว่าใช้คำบาลีจนงง
เราคิดว่าหลายคนไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริงของ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ เพราะกำแพงของภาษา
เราได้ยินมาตลอดชีวิต กว่าจะได้เข้าใจจริงๆก็คือตอนปฏิบัติเข้มข้นเอง
แต่เราได้ฟังทางนี้ ใช้ภาษาปัจจุบันได้ดีมากๆ รวมทั้งการเปรียบเทียบด้วย คิดว่าเข้าใจได้ง่าย
แต่สิ่งที่ประทับใจ และแนะนำให้กิ๊บ คือการนำภาวนาสำหรับครอบครัว
พระของหมู่บ้านพลัม วิ่งเล่นกับเด็ก เล่านิทาน สอนวาดรูป เล่นเกมสร้างสรรค์
คราวที่เราไป พระมาวิ่งเล่นสาดน้ำด้วย
แต่ช้าก่อน อย่าเพิ่งเข้าใจว่าพระทำไมไม่สำรวม เล่นได้ไง
ถ้าได้เห็นอาการเคลื่อนไหวของพระอาจารย์เหล่านี้ เค้าเคลื่อนไหวอย่างมีสติจริงๆ
สามารถเข้าถึงธรรมชาติของเด็กๆได้อย่างเป็นตัวตนที่แท้จริง
ไม่ได้สร้างภาพนักบวชมาดเคร่งเกร็งจนตูดขมิบจนเด็กไม่กล้าเข้าใกล้
เมื่อนักบวชเข้าถึงโลกของเด็กได้อย่างแท้จริงแล้ว
การสื่อสารเพื่อจะถ่ายทอดธรรมะใหกับเด็กๆ ดูจะไม่เป็นปํญหาอะไรเลย
เด็กๆกลับสนใจ และเชื่อฟัง รู้จักเวลาที่ควรสงบนิ่ง รู้จักเวลาเล่น
มันคือการมีความสุขกับโลกปัจจุบัน
ยอดเยี่ยมมากครับ เกิดความศรัทธามากเลย
อยากแนะนำให้เพื่อนๆทุกคนเลย
โดยเฉพาะเด็กๆ ที่ต้องเติบโตท่ามกลางการแก่งแย่งของสังคมปัจจุบัน
อยากให้เรียนรู้ความสุขของการอยู่ร่วมกันอย่างเคารพ เอื้อเฟื้อ แบ่งปัน
ในกิจกรรมดีๆ กับคณาจารย์ดีๆอย่างนี้
เอาเถอะ ธรรมะ คือ สิ่งที่เห็นได้ด้วยตัวเองจากการเข้าไปลองดู เท่านั้น
สิ่งที่กิ๊บจะได้ ไม่ใช่สิ่งที่เราได้มา การเดินทางให้ประสบการณ์ที่แตกต่าง
การเปิดใจเพื่อเรียนรู้ จะขยายขอบเขตของสิ่งที่ได้รับ
ลูกกิ๊บเป็นเด็กฉลาด ท่าทางจะพาตัวเองให้สบายได้ตลอด และความจำดีนะ
เหนื่อยหน่อยนะ ต้องหาอะไรให้ลูกทำเยอะๆหน่อย
พ่นมาซะเยอะเลย อยากคุยกับตัวมากกว่า ฝอยได้มากกว่านี้อีก โทรมาละกัน
ทิน
วันศุกร์ที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2552
โอบามา กับ รางวัลโนเบลสันติภาพ (Obama Nobel Peace Price)
เรื่องเซอร์ไพรส์โลกมากๆของวันนี้นาย บารัค โอบามา ประธานาธิบดีของสหรัฐ ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ
เค้าบอกว่า นายโอบามาได้ 'ให้ความหวังสำหรับอนาคตที่ดีกว่า' (Hope for the better future)
และได้ต่อสู้เพื่อการปลดอาวุธนิวเคลียร์ทั่วโลก
ว้าว....
รางวัลโนเบลนี่ไม่ใช่ธรรมดานะครับ เรียกว่าเป็นรางวัลเกียรติยศสูงสุดของโลกนี้เลย
นอกจากจะได้โล่ห์แล้วยังมีเงินสดอีกเป็นหลัก 1.4 ล้านเหรียญเลยทีเดียว
เจ๋งกว่าออสการ์อีกนะจะบอกให้
ก็ยอมรับว่านายโอบามาคนนี้ไม่ธรรมดา ที่เป็นคนผิวดำคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้ขึ้นถึงตำแหน่งที่สูงที่สุดในสหรัฐ ซึ่งเป็นประเทศที่มีอำนาจมากที่สุดในโลกเลยทีเดียว (อำนาจทางเศรษฐกิจอาจจะไม่ใช่ที่หนึ่งแล้ว แต่อาวุธของเค้าเจ๋งกว่าใครๆแน่นอน)
แต่การได้รับรางวัลโนเบลสันติภาพของเค้าเป็นที่กังขากันทั่วไป อย่างที่รู้ๆกัน อเมริกาชอบทำตัวเป็นตำรวจของโลกคอยไปไล่ปลดอาวุธนิวเคลียร์ของชาวบ้าน
แต่ของตัวเองเก็บไว้ พอใครถามก็อ้างว่า ตำรวจก็ต้องมีปืนไว้ป้องกันตัวซิ ....
ชะอ้าว... งั้นเอารางวัลโนเบลไปเลยละกัน....
วันพฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2552
เห็ดทรัฟเฟิล กับ หมู (Truffle and Pig)
ช่วงนี้บ้าเล่น FarmVille ใน Facebook ครับ เป็นเกมจำลองการทำฟาร์มในคอมพิวเตอร์ ปลูกผัก ปลูกผลไม้ ต้นไม้ เลี้ยงสัตว์ สร้างโรงนา อะไรต่างๆนาๆเกี่ยวกับฟาร์ม พอปลูกผักผลไม้เสร็จแล้วก็รอผลผลิตเพื่อเก็บเกี่ยว ส่วนสัตว์เช่น วัว แพะ ก็เก็บนม แกะ ก็เก็บขน
มีสัตว์อยู่ตัวนึงที่เกมให้เลี้ยงคือ "หมู" ครับ เวลาเก็บเกี่ยวเค้าบอกว่า "Collect Truffle" O_o
อะไรคือ Truffle หว่า ปกติเลี้ยงหมู ก็เจื๋อนทำข้าวหมูแดง ตือฮวนเท่านั้นอ่ะนะ จะไปเก็บอะไรจากมันได้อีก สงสัย+ว่าง ก็เลยไปหาข้อมูลดูครับ เอามาบันทึกไว้ดีกว่า
Truffle คือ "เห็ด" ชนิดหนึ่งครับ ลองดูละกันว่าเค้าเขียนว่าไง
สำหรับบรรดาผู้เชี่ยวชาญการครัวและอาหาร ไม่มีวัตถุดิบชนิดใดในโลกแล้วที่จะมีราคาสูงเท่ากับ "เห็ดทรัฟเฟิล" (ฝรั่งอาจจะไม่รู้จักโสมเกาหลีก็ได้น่ะครับ) ทรัฟเฟิลถูกตั้งชื่อเล่นว่า เพชรในครัว โดยพ่อครัวฝรั่งเศส ที่ยอมควักกระเป๋าจ่าย 4-8หมื่นบาทสำหรับทรัฟเฟิลขาวชื่อว่า Tuber magnatum ซักครึ่งกิโล รสชาติและกลิ่นของทรัฟเฟิลนี้ว่ากันว่าคล้ายๆวอลนัทแต่แรงมากๆ (ผู้เขียนบอกว่า เหมือนถุงเท้าเหม็นๆ) ซึ่งคง
จะเป็นการบรรยายเกินจริงของพวกพ่อครัวอาชีพเหล่านั้น เพื่อจะบรรยายทรัฟเฟิลที่หาได้ยากมากนอกประเทศทำไวน์นี้ เมื่อปีที่แล้ว สามีภรรยาชาวจีนคู่หนึ่ง จ่ายเงินกว่า 5.6 ล้านบาท สำหรับทรัฟเฟิลขาวก้อนเดียวที่มีน้ำหนัก 1 กิโลครึ่งซึ่งหนักกว่าปกติ (รูปซ้ายมือ) เป็นราคาที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์การซื้อเชื้อราก้อนหนึ่ง เค้าบอกว่าไอ้เจ้าก้อนทรัฟเฟิลสามชั้นนี้รูปร่างเหมือนพระพุทธรูป แต่ยังไงมันก็เป็นเห็ด ซึ่งเป็นราชนิดหนึ่งอยู่ดี เพียงแต่ราคาสุดยอดแค่นั้นเอง
อะไรคือ "ทรัฟเฟิล" กันแน่หนอ?
เห็ดแข็งโป๊กที่อยู่ใต้ดินนี้ก็เหมือนกับเห็ดทั่วๆไป มันก็คือเห็ดน่ะแหละ ตัวก้อนของมันเป็นเหมือนการสะสมอาหารของหัวมันหรือไชเท้า ภายในมีสปอร์จำนวนมากสะสมอยู่ การอยู่อาศัยก็อยู่เป็นกลุ่มหรืออยู่กับรากต้นไม้บางชนิด การอาศัยอยู่โดยมีรากแผ่รอบช่วยให้มันดูดน้ำตาลจากต้นไม้ และต้นไม้ก็ได้ฟอสฟอรัสและแร่ธาติอื่นๆจากเห็ดทรัฟเฟิล เป็นการอยู่แบบถ้อยทีถ้อยอาศัยมากเลย ตามจริงแล้วการอยู่อาศัยแบบพึ่งพากันของต้นไม้และราในดินมีอยู่กับพืช 90% ในโลกนี้ทีเดียว
ทรัฟเฟิลโตอยู่ใต้ดิน แล้วมันจะแพร่สปอร์ของมันได้ไงละ !?
เช่นเดียวกับพืชหลายๆชนิดที่มีวิวัฒนาการสำหรับวิธีการขยายพันธุ์โดยใช้สัตว์เป็นสื่อกลาง อย่างเช่นเมล็ดของเชอร์รี่ต้องผ่านกรดในกระเพาะอาหารของนกก่อนที่จะถูกปล่อยลงดินที่อยู่ห่างไปจากต้นแม่ ทำให้เกิดการแพร่พันธุ์ไปยังถิ่นใหม่ๆ ผลไม้มีรสชาติหวานอร่อยเพื่อล่อให้สัตว์หรือแมลงมากิน แล้วเอาเมล็ดไปปล่อยพร้อมกับอึไกลๆ สำหรับทรัฟเฟิลแล้ว ก็มี "หมูตัวเมีย" ที่ถูกมนุษย์ตัวแสบเอามาใช้งานในการหาเห็ดทรัฟเฟิลที่อยู่ใต้ดิน
เมื่อหมูตัวเมีย (โดยเฉพาะตัวที่กำลังมองหากิ๊กหมูหล่อๆ) เจอทรัฟเฟิลแล้ว มันจะคึกคะนองและตะกุยดินไปหาเจ้าเห็ดนี้ในทันที นี่เป็นเพราะเห็ดทรัฟเฟิลปล่อยสารระเหยชนิดหนึ่งออกมา เป็นสารประเภทฮอร์โมน Testosterone (ฮอร์โมนเพศ) ซึ่งเป็นชนิดเดียวกับที่หมูตัวผู้ที่คึกคักเต็มที่ปล่อยออกมาเพื่อดึงดูดหมูสาว เมื่อหมูสาวถูกจูงไปยังที่ที่มีเจ้าเห็ดทรัฟเฟิลนี่อยู่เยอะ เธอก็จะคิดว่าเธอเป็นหมูสาวเจ้าเสนห์อยู่ท่ามกลางปาร์ตี้หมูหนุ่ม และพยามขุดดินเพื่อเอาหมูหนุ่มๆนั้นออกมาจากใต้ดิน วิธีนี้เองที่ทรัฟเฟิลถูกนำขึ้นมาบนพื้นดินและติดตามหมูสาวเจ้าไปหล่นในพื้นที่อื่นของป่าเพื่อสร้างอนาจักรใหม่ เจ้าหมูสาวคงจะเซ็งและงงจัดเลย "อ้าว แล้วพ่อหนุ่มสุดฮ๊อตเจ้าของกลิ่นเย้ายวนนี่เค้าหายไปไหนแล้วล่ะ" ขุดๆๆๆ "อู๊ดๆๆๆ หมูหนุ่มของช้าาาานนน..."
เอวังก็ด้วยประการชะนี้เน้อ
ที่มา
http://feefellaneous.blogspot.com/2007/01/truffles-and-smell-of-pig-sex.html
มีสัตว์อยู่ตัวนึงที่เกมให้เลี้ยงคือ "หมู" ครับ เวลาเก็บเกี่ยวเค้าบอกว่า "Collect Truffle" O_o
อะไรคือ Truffle หว่า ปกติเลี้ยงหมู ก็เจื๋อนทำข้าวหมูแดง ตือฮวนเท่านั้นอ่ะนะ จะไปเก็บอะไรจากมันได้อีก สงสัย+ว่าง ก็เลยไปหาข้อมูลดูครับ เอามาบันทึกไว้ดีกว่า
Truffle คือ "เห็ด" ชนิดหนึ่งครับ ลองดูละกันว่าเค้าเขียนว่าไง
สำหรับบรรดาผู้เชี่ยวชาญการครัวและอาหาร ไม่มีวัตถุดิบชนิดใดในโลกแล้วที่จะมีราคาสูงเท่ากับ "เห็ดทรัฟเฟิล" (ฝรั่งอาจจะไม่รู้จักโสมเกาหลีก็ได้น่ะครับ) ทรัฟเฟิลถูกตั้งชื่อเล่นว่า เพชรในครัว โดยพ่อครัวฝรั่งเศส ที่ยอมควักกระเป๋าจ่าย 4-8หมื่นบาทสำหรับทรัฟเฟิลขาวชื่อว่า Tuber magnatum ซักครึ่งกิโล รสชาติและกลิ่นของทรัฟเฟิลนี้ว่ากันว่าคล้ายๆวอลนัทแต่แรงมากๆ (ผู้เขียนบอกว่า เหมือนถุงเท้าเหม็นๆ) ซึ่งคง
จะเป็นการบรรยายเกินจริงของพวกพ่อครัวอาชีพเหล่านั้น เพื่อจะบรรยายทรัฟเฟิลที่หาได้ยากมากนอกประเทศทำไวน์นี้ เมื่อปีที่แล้ว สามีภรรยาชาวจีนคู่หนึ่ง จ่ายเงินกว่า 5.6 ล้านบาท สำหรับทรัฟเฟิลขาวก้อนเดียวที่มีน้ำหนัก 1 กิโลครึ่งซึ่งหนักกว่าปกติ (รูปซ้ายมือ) เป็นราคาที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์การซื้อเชื้อราก้อนหนึ่ง เค้าบอกว่าไอ้เจ้าก้อนทรัฟเฟิลสามชั้นนี้รูปร่างเหมือนพระพุทธรูป แต่ยังไงมันก็เป็นเห็ด ซึ่งเป็นราชนิดหนึ่งอยู่ดี เพียงแต่ราคาสุดยอดแค่นั้นเองอะไรคือ "ทรัฟเฟิล" กันแน่หนอ?

เห็ดแข็งโป๊กที่อยู่ใต้ดินนี้ก็เหมือนกับเห็ดทั่วๆไป มันก็คือเห็ดน่ะแหละ ตัวก้อนของมันเป็นเหมือนการสะสมอาหารของหัวมันหรือไชเท้า ภายในมีสปอร์จำนวนมากสะสมอยู่ การอยู่อาศัยก็อยู่เป็นกลุ่มหรืออยู่กับรากต้นไม้บางชนิด การอาศัยอยู่โดยมีรากแผ่รอบช่วยให้มันดูดน้ำตาลจากต้นไม้ และต้นไม้ก็ได้ฟอสฟอรัสและแร่ธาติอื่นๆจากเห็ดทรัฟเฟิล เป็นการอยู่แบบถ้อยทีถ้อยอาศัยมากเลย ตามจริงแล้วการอยู่อาศัยแบบพึ่งพากันของต้นไม้และราในดินมีอยู่กับพืช 90% ในโลกนี้ทีเดียว
ทรัฟเฟิลโตอยู่ใต้ดิน แล้วมันจะแพร่สปอร์ของมันได้ไงละ !?
เช่นเดียวกับพืชหลายๆชนิดที่มีวิวัฒนาการสำหรับวิธีการขยายพันธุ์โดยใช้สัตว์เป็นสื่อกลาง อย่างเช่นเมล็ดของเชอร์รี่ต้องผ่านกรดในกระเพาะอาหารของนกก่อนที่จะถูกปล่อยลงดินที่อยู่ห่างไปจากต้นแม่ ทำให้เกิดการแพร่พันธุ์ไปยังถิ่นใหม่ๆ ผลไม้มีรสชาติหวานอร่อยเพื่อล่อให้สัตว์หรือแมลงมากิน แล้วเอาเมล็ดไปปล่อยพร้อมกับอึไกลๆ สำหรับทรัฟเฟิลแล้ว ก็มี "หมูตัวเมีย" ที่ถูกมนุษย์ตัวแสบเอามาใช้งานในการหาเห็ดทรัฟเฟิลที่อยู่ใต้ดิน
เมื่อหมูตัวเมีย (โดยเฉพาะตัวที่กำลังมองหากิ๊กหมูหล่อๆ) เจอทรัฟเฟิลแล้ว มันจะคึกคะนองและตะกุยดินไปหาเจ้าเห็ดนี้ในทันที นี่เป็นเพราะเห็ดทรัฟเฟิลปล่อยสารระเหยชนิดหนึ่งออกมา เป็นสารประเภทฮอร์โมน Testosterone (ฮอร์โมนเพศ) ซึ่งเป็นชนิดเดียวกับที่หมูตัวผู้ที่คึกคักเต็มที่ปล่อยออกมาเพื่อดึงดูดหมูสาว เมื่อหมูสาวถูกจูงไปยังที่ที่มีเจ้าเห็ดทรัฟเฟิลนี่อยู่เยอะ เธอก็จะคิดว่าเธอเป็นหมูสาวเจ้าเสนห์อยู่ท่ามกลางปาร์ตี้หมูหนุ่ม และพยามขุดดินเพื่อเอาหมูหนุ่มๆนั้นออกมาจากใต้ดิน วิธีนี้เองที่ทรัฟเฟิลถูกนำขึ้นมาบนพื้นดินและติดตามหมูสาวเจ้าไปหล่นในพื้นที่อื่นของป่าเพื่อสร้างอนาจักรใหม่ เจ้าหมูสาวคงจะเซ็งและงงจัดเลย "อ้าว แล้วพ่อหนุ่มสุดฮ๊อตเจ้าของกลิ่นเย้ายวนนี่เค้าหายไปไหนแล้วล่ะ" ขุดๆๆๆ "อู๊ดๆๆๆ หมูหนุ่มของช้าาาานนน..."เอวังก็ด้วยประการชะนี้เน้อ
ที่มา
http://feefellaneous.blogspot.com/2007/01/truffles-and-smell-of-pig-sex.html
วันจันทร์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2552
หาเจอแล้ว
กลับมาเจอตัวแล้ว Blog ของเรา
กว่าจะหาเจอนะ ต้องขอความช่วยเหลือจากคุณแนน
แสดงถึงความใส่ใจอย่างมากของเรากับ Blog นี้
เรื่องก็คือ วันก่อนไปเจอเรื่องดีๆเกี่ยวกับอาหาร
เลยอยากเอามาเขียนแบ่งเพื่อน หรือเก็บไว้ให้ตัวเองอ่าน
ปรากฎว่าหา Blog ไม่เจอ o_O
วันนี้เราเจอกันแล้ว จะเก็บเรื่องราวไว้เล่าตอนต่อไปละกัน
กว่าจะหาเจอนะ ต้องขอความช่วยเหลือจากคุณแนน
แสดงถึงความใส่ใจอย่างมากของเรากับ Blog นี้
เรื่องก็คือ วันก่อนไปเจอเรื่องดีๆเกี่ยวกับอาหาร
เลยอยากเอามาเขียนแบ่งเพื่อน หรือเก็บไว้ให้ตัวเองอ่าน
ปรากฎว่าหา Blog ไม่เจอ o_O
วันนี้เราเจอกันแล้ว จะเก็บเรื่องราวไว้เล่าตอนต่อไปละกัน
วันพฤหัสบดีที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2552
จุดเริ่มต้น
นั่งสงสัย ว่าทำไมชาวบ้านเขาเขียนบล๊อกกันจัง
เขียนแล้วเป็นยังไง เขียนแล้วได้อะไร สงสัยเหลือเกิน
หยุดความสงสัย แล้วสร้างบล๊อกขึ้นมาเขียนเองมั่งซะเลย
เป็นยังไง...
เขียนแล้วเป็นยังไง เขียนแล้วได้อะไร สงสัยเหลือเกิน
หยุดความสงสัย แล้วสร้างบล๊อกขึ้นมาเขียนเองมั่งซะเลย
เป็นยังไง...
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)